ศูนย์รวมหนังสือเก่าหายาก (Rare Item)
และหนังสือใหม่ (ทุกประเภท) หลากหลายสำนักพิมพ์
หนังสือบางเล่ม " อาจมีราคาสูงกว่าราคาปก " เพราะเป็นหนังสือหายากมีคุณค่า เหมาะแก่การสะสม
ทางร้าน "มีต้นทุนที่สูง ในการจัดหา"
Delivering Happiness
โกปี : โสภาค สุวรรณ พิมพ์ปี 2529 ปกแข็ง
(1-2 เล่มจบ)
---------
เมื่อเอ่ยชื่อไพรัชนิยายของคุณโสภาค สุวรรณ ผู้อ่านส่วนใหญ่มักจะนึกถึงงานประพันธ์เรื่อง "ฟ้าจรดทราย" "พรสรวง" และ "ความลับบนแหลมไซไน" ซึ่งล้วนแต่มีเนื้ิอหาและฉากในทะเลทรายแถบตะวันออกกลางเป็นหลัก นิยายเรื่อง "โกบี" ก็เป็นอีกเรื่องที่ผู้เขียนพาเราไปรู้จักชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในทะเลทรายอีกครั้ง แต่เป็นทะเลทรายโกบีอันกว้างใหญ่ไพศาล
หากแต่เรื่อง "โกบี" นี้มีความคล้ายคลึงกับ" ความรักบนแหลมไซไน" มากตรงที่ผู้อ่านสามารถจินตนาการสถานที่ต่าง ๆ ด้วยการเปิดแผนที่ติดตามเส้นทางการเดินทางผจญภัยของตัวละครได้ตลอด เพราะผู้เขียนสามารถเปิดเผยสภาพทางภูมิศาสตร์ว่าสถานที่ต่าง ๆ อยูู่แห่งหนใดบ้าง ซึ่งต่างจากเรื่อง" ฟ้าจรดทราย" และ "พรสรวง" ที่ผู้เขียนจำเป็นต้องปกปิดข้อมูลจริงเพื่อเคารพเกียรติภูมิของประชาชน วัฒนธรรม และความเกี่ยวเนื่องกับพระราชวงศ์ที่แท้จริง
.
"โกบี" เป็นเรื่องราวการสำรวจสภาพทะเลทรายในดินแดนของชนเผ่ามองโกลเคยอาศัยแถบเอเชียกลาง พล็อตเรื่องดำเนินไปในช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๕๘-๒๔๗๖ (ค.ศ. ๑๙๑๕-๑๙๓๓) ซึ่งเป็นช่วงสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมืองของผู้คนในทะเลทรายโกบี เพราะประเทศจีนเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านจากระบบจักรพรรดิไปสู่สาธารณรัฐภายหลังการสิ้นสุดของราชวงศ์เช็งหรือชิงในปี พ.ศ. ๒๔๕๔ (ค.ศ. ๑๙๑๑) จากการปฏิวัติของดร.ซุน ยัด เซ็น จึงยังมีสงครามกลางเมืองแย่งชิงอำนาจกันในมณฑลต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
ผู้เขียนเล่าว่าท่านต้องใช้เวลาพอสมควรในรวบรวมและค้นหาเอกสารสำคัญ และตัวบุคคลเพื่อศึกษาด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การเมือง การปกครอง และวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่น ก่อนจะเขียนนิยายเรื่องนี้
"โกบี" เล่าถึงชีวิตและการเดินทางของลิลลี่ ไรเนอร์ สาวลูกครึ่งอเมริกัน-จีน ที่ติดตามบิดาคือโทมัส ไรเนอร์ อดีตศาตราจารย์ชาวอเมริกันกลับไปจีนหลังจากได้ทุนสำรวจจากสมาคมภูมิศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกาเพื่อศึกษาวิจัยสภาพภูมิศาสตร์ของ “ โกบี” ทะเลทรายที่ผู้คนยังไม่รู้จักในมณฑลซินเกียง (หรือซินเจียงในปัจจุบัน) โดยมีลิลลี่ติดตามคณะไปทำหน้าที่เลขาฯ ให้บิดา
มารดาของลิลลี่เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก โทมัสจึงพาลิลลี่กลับไปอยู่ที่บอสตัน สหรัฐอเมริกา และสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยฮาว์เวิร์ด ลิลลี่เติบโตมาอย่างมีอิสระในการแสดงออกและใช้ชีวิต เป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ มั่นใจในตัวเอง และกล้าเรียนรู้และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผู้หญิงในสังคมยุคนั้นไม่นิยมทำ เช่นขี่ม้า และขับรถ เมื่อลิลลี่จบการศึกษา บิดาจึงลาออกและกลับมาจีนอีกครั้ง
ทีมสำรวจนี้ ยังมีโยบลา ข่าน เจ้าชายแห่งโกบี (The King of Gobi) จากราชอาณาจักรของ "ข่าน แห่งคูมุลหรือฮามี" ซึ่งเป็นเมืองสำคัญหน้าด่านของมณฑลซินเกียงในทะเลทรายโกบี เสด็จร่วมคณะไปด้วย โยบลา ข่าน มีเชื้อสายเตอร์กิช เพิ่งจบการศึกษาจากอเมริกาและได้พบเจอโทมัสและทีมที่บอสตัน
ทีมสำรวจใช้เส้นทางจากมณฑลชานสีสู่กังสูเพื่อไปยังมณฑลซินเกียง ซึ่งมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลเท่า ๆ กับรวมประเทศเยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส อังกฤษ ฮอลแลนด์ เบลเยี่ยม นอร์เวย์ และสวีเดนเข้าด้วยกัน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายโกบี จึงมีคนอาศัยอยู่เพียงสามล้านคนเท่านั้น มีทั้งชาวจีนที่เป็นมุสลิม คริสต์ และพุทธ และชนเผ่าอื่น ๆ รวมทั้งชาวรัสเซียที่หลบหนีคอมมิวนิสต์มาอาศัยอยู่ด้วย
งานสำรวจนี้วางแผนไว้ประมาณเก้าเดือน พร้อมคณะกว่า ๖๐ ชีวิตและอูฐจำนวน ๒๒๐ ตัว รวมทั้งเกวียน และนักเดินทาง พ่อค้า ที่ห่อหุ้มตัวไว้ด้วยขนสัตว์ เพื่อป้องกันความหนาวที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ถึงยี่สิบองศาในฤดูหนาว... บางวันก็ต้องเผชิญกับพายุฝน พายุทะเลทราย และพายุหิมะ... การผจญภัยที่น่าตื่นเต้นในทะเลทรายโกบีจึงเริ่มขึ้น
แม้โยบลา ข่าน จะไม่เห็นด้วยที่จะให้มีผู้หญิงเดินทางในการสำรวจครั้งนี้เพราะเป็นห่วงเรื่องความลำบากและความปลอดภัย แต่ระหว่างการเดินทางเขาก็ได้เห็นความทรหดของลิลลี่ และช่วยเหลือเธอบ้าง ความรู้สึกผูกพันระหว่างกันค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นทำให้งานสำรวจต้องยุติกลางคัน ลิลลี่ต้องกลับอเมริกา... แต่เธอยังมุ่งมั่นจะทำงานนี้ให้เสร็จ ต่อมาเธอก็หาหนทางกลับมาที่โกบีอีกครั้ง เมื่อเธอออกเดินทางใหม่พร้อมกับคณะเพียงห้าคนที่เรียกว่า 'ขบวนคาราวานอนาถา' เธอก็ได้เจอโยบลา ข่าน อีกครั้งโดยไม่คาดคิด เขาดีใจเพราะยังเชื่อมั่นว่าเธอจะต้องกลับมา
การสำรวจดำเนินไปด้วยดี และเกือบจะเสร็จสิ้นเมื่อโยบลา ข่านพาลิลลี่และทีมงานเดินทางไปจนถึงนครอูรุมชี (หรือ อูรุมฉี) เมืองหลวงของซินเกียงได้เรียบร้อย... แต่แล้วสงครามกลางเมืองก็ปะทุขึ้น โยบลา ข่านอธิบายเรื่องการเมืองให้ลิลลี่ฟังว่า
"... สิบแปดปีเต็ม ๆ ที่บรรดาขุนพลทั้งหลายไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายในซินเกียง แม้แต่รัสเซียก็ยังต้องประนีประนอม.. ถึงแม้ว่า ธงกัว-มินตั๋ง จะโบกอยู่บนยอดเสาที่ปักกิ่ง ก็ไม่ได้หมายความว่า ประเทศจีนจะหยุดความเปลี่ยนแปลงไว้แค่นั้น นี่เป็นเพียงฉากแรก..."
ช่วงเวลาที่คับขันนี้ ผู้อ่านจะคอยลุ้นว่าเรื่องราวจะจบอย่างไร เมื่อลิลลี่้ต้องหาทางกลับออกไปจากอูรุมชี ขณะที่ครอบครัวในราชวงศ์ของโยบลา ข่านก็ตกอยู่ในอันตราย... ทั้งคู่มีเวลาเหลือเพียงน้อยนิดที่จะร่ำลากัน โยบลา ข่านบอกลิลลี่ว่า
"... ระหว่างหน้าที่กับความรัก ฉันไม่มีโอกาสเลือกเลย ชีวิตและร่างกายฉันเป็นของทุกคนที่ฮามีตามหน้าที่ ส่วนหัวใจนั้น ขอฝากไปกับเธอให้ช่วยเก็บรักษาไว้ด้วย ไม่ว่าเราจะได้พบกันอีกหรือไม่ก็ตาม"
"โกบี" เป็นไพรัชนิยายอีกเรื่องที่ผู้อ่านจะประทับใจและไม่ผิดหวัง แม้เมื่ออ่านจบแล้วจะรู้สึกเศร้าลึก ๆ ... แอดมินชอบเรื่องนี้มากกว่า "ฟ้าจรดทราย" เพราะเนื้อหาและโครงเรื่องที่มีความซับซ้อนมากกว่า ไม่เพียงการผจญภัยและรักโรแมนติก
โดยส่วนตัวแอดคิดว่าผู้เขียนปรารถนาที่จะจบเรื่องลักษณะนี้เพื่อสื่อให้เห็นถึงตัวตนของลิลลี่ ความเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง และดูแลตัวเองได้ แม้จะต้องใช้ชีวิตที่โดดเดี่ยวตามลำพังกับลูกชายก็ตาม นี่คือสิ่งที่เราเห็นจากบุคลิกของลิลลี่ตั้งแต่เธอเติบโตมาจนกล้าที่จะเดินทางร่วมคณะสำรวจ และยังมุ่งมั่นที่จะกลับไปสานต่องานจนจบอีกครั้ง... เธอโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของผู้เป็นที่รัก แต่เธอก็ยอมรับความจริงและกล้าเผชิญเหตุการณ์ที่ครอบครัวทางบิดาและสังคมอเมริกันยุคนั้นยังไม่ยอมรับ
นอกจากความเข้มข้นสนุกสนานเร้าใจเรื่องการเดินทางในทะเลทรายแล้ว เรายังได้ความรู้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ ประเพณี การปกครองและวัฒนธรรมของผู้คนในทะเลทรายโกบีิ ที่ไม่ค่อยมีนวนิยายเรื่องใดเขียนถึง โดยเฉพาะอาณาจักรของข่านแห่งคูมุล หรือเตอรกีสถานของจีน ซึ่งมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๒ มีความเจริญด้านระบบชลประทาน และมีอารยธรรม ก่อนที่มาร์โคโปโลจะเดินทางไปสำรวจในศตวรรษที่ ๑๔ จึงพบว่าที่นี่มีระบบเกษตรกรรมที่ก้าวหน้าจนรู้จักกันว่าเป็นโอเอซิสโบราณ
นิยายเรื่องนี้ยังพาเราไปสัมผัสเสน่ห์ของธรรมชาติในโกบีที่สวยงาม เช่นฉากที่ผู้เขียนบรรยายถึงทะเลสาบพระจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงที่สาดแสงจันทร์อาบผืนทะเลทรายให้กลายเป็นสีเงินยวง... ในปัจจุบันนี้ การเดินทางไปซินเกียงก็ง่ายขึ้นมีทั้งรถไฟและเที่ยวบินจากปักกิ่งและมณฑลใกล้เคียงไปถึง อีกทั้งทัวร์ต่าง ๆ แอดมินเชื่อว่าผู้อ่านบางท่านที่รักการผจญภัยอาจจะเคยไปเที่ยวแถบนั้นหรือไปมองโกเลียมาแล้ว
คุณโสภาค สุวรรณ ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขา วรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ท่านไม่เพียงเขียนไพรัชนิยายเท่านั้น ยังมีงานเขียนอิงประวัติศาสตร์และสะท้อนสังคมไทยที่เราชื่นชอบกันอีกมากมายเช่น "สายโลหิต" "ปุลากง" "หนามดอกรัก" "มนต์นางฟ้า" "จินตปาตี" ฯลฯ
#อ่านอีกครั้งก็ยังชอบ #โกบี #โสภาคสุวรรณ #ไพรัชนิยาย #ทะเลทรายโกบี #มองโกล #มณฑลซินเกียง #สำนักพิมพ์คลังวิทยา