
| รหัสสินค้า | SKU-07126 |
| หมวดหมู่ | หนังสือเก่า มีคุณค่าน่าสะสม |
| ราคา | 350.00 บาท |
| ลงสินค้า | 3 ธ.ค. 2562 |
| อัพเดทล่าสุด | 3 ธ.ค. 2562 |
| คงเหลือ | 0 ชิ้น |
ลีลาวดี โดย ธรรมโฆษ พิมพ์ปี 2522 จำนวนหน้า 424 หน้า
ถ้าใครเคยอ่านธรรมนิยาย อย่าง พระอานนท์พุทธอนุชา ของอาจารย์วศิน อินทสระ หรือ กองทัพธรรม ของอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ ลีลาวดี ก็เป็นธรรมนิยาย ในลักษณะเดียวกัน ที่ย้อนยุคเข้าไปในสมัยพุทธกาล ธรรมโฆษ หรือนามจริง ศาสตราจารย์ แสง จันทร์งาม นั้น ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกสุดของ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ และเป็นรุ่นพี่ ของอาจารย์วศิน อินทสระ สำหรับประวัติคร่าวในวิกิพีเดีย กล่าวว่า
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แสง จันทร์งาม เกิดเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 เป็นนักศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัยรุ่นแรก และนับเป็นพระนักศึกษามหาวิทยาลัยสงฆ์รูปแรกที่มีความสามารถระดับบรรยายธรรมเป็นภาษาอังกฤษต่อหน้าชุมนุมชน โดยท่านแสดงปาฐกถาธรรมครั้งแรกตามคำแนะนำของ "พระศรีวิสุทธิญาณ" (อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ) ผู้เป็นอาจารย์ ที่หอประชุมมหามกุฏราชวิทยาลัย หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร หลังจากสำเร็จการศึกษาจาก มหามกุฏราชวิทยาลัย อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพได้สนับสนุนให้ท่านได้ทุนจาก มูลนิธิบริติช เคาน์ซิล ไปศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรภาษาอังกฤษระดับสูง ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ในประเทศอังกฤษและหลังจากสำเร็จการศึกษา ก็ได้ทุนการศึกษาจากมูลนิธิเอเซียเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ มหาวิทยาลัยมิชิแกนในสหรัฐอเมริกา
สำหรับเนื้อหาของลีลาวดี ตัวเอกของเรื่อง
เรื่องราวในภาคแรก กล่าวถึง เด็กหนุ่มเข็ญใจนามเรวัตตะที่เกิดในตระกูลของจัณฑาล ชานกรุงสาวัตถี เป็นที่รังเกียจของคนทั่วไป แต่ด้วยความใฝ่ดี ท่านเศรษฐีสุมังคลคฤหบดี จึงรับอุปการะให้มาเป็นคนรับใช้ในปราสาทของตน
สุมังคล เป็นคนดี เสียแต่นางคฤหปตานี ผู้เป็นภรรยา และกัณณิกา ธิดาคนโต เป็นคนถือตัว ชอบรังเกียจและดูหมิ่นคนชั้นต่ำกว่า จึงพยายามหาทางกลั่นแกล้ง เรวัตตะ จนต้องไปเป็นคนสวนอาศัยในกระท่อมนอกปราสาทของท่านเศรษฐี แต่โชคดี ที่ท่านเศรษฐีเอง ก็ยังมีธิดาคนน้อง นามลีลาวดี ที่มีจิตใจอ่อนโยน เมตตา คอยช่วยเหลือเรวัตตะอยู่เสมอ
และนั่นก็ทำให้เกิดความรัก ความผูกพัน ระหว่าง สองหนุ่มสาว ต่างชนชั้น ต่างวรรณะ ที่เป็นเสมือนปราการอันมหึมาเข้าขวางกั้นคนทั้งคู่เอาไว้
แต่แล้ว... ความลับย่อมไม่มีในโลก ท้ายที่สุดความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ก็ล่วงรู้ถึงหูนางคฤหปตานี นางโกรธบุตรีอย่างมากจนถึงกับลงมือเฆี่ยนตีลีลาวดี จนเรวัตตะทนไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจอำลากลับไปยังหมู่บ้านจัณฑาลของตน เพื่อไม่ให้หญิงที่รักต้องถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ แต่บิดามารดาก็ไม่อยู่เสียแล้ว เมื่อสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ชายหนุ่มจึงพเนจรร่อนเร่ อย่างไร้จุดหมายปลายทาง
แล้วชะตาชีวิตของเรวัตตะ ถูกดึงให้เข้าไปอยู่ในวังวนของกลุ่มโจร เขากลายเป็นสมุนโจรและด้วยความรู้ความสามารถจึงได้รับความไว้วางใจให้กลายมาเป็นที่ปรึกษา วางแผนการปล้นสะดม ตราบจนกระทั่งวันหนึ่ง กลุ่มโจรก็จับเศรษฐีคนหนึ่งมาเรียกค่าไถ่ เรวัตตะ จำได้ว่า นั่นคือ ท่านสุมังคลคฤหบดี ผู้มีพระคุณต่อเขานั่นเอง เขาจึงตัดสินใจยื่นขอเสนอแลกกับอิสรภาพของเศรษฐี โดยสัญญาว่าจะตามล่าชีวิตคนมาแลกเปลี่ยนแทนและเพื่อสังหารชีวิตบูชาเจ้าแม่กาลีเทวีผู้เป็นที่สักการะของกลุ่มโจร ซึ่งทำให้เชษฐกะหัวหน้าโจรประทับใจ จึงยอมยกเว้นปล่อยตัวสุมังคลให้เป็นอิสระ
เช้าวันรุ่งขึ้น เรวัตตะ ก็ออกตามหาเหยื่อชีวิต ที่ตนต้องการนำมาสังหารบูชายัญ เหมือนชะตาชีวิตถูกกำหนดให้พลิกผันอีกครั้ง เมื่อผู้ที่เรวัตตะเผชิญหน้าเพื่อสังหาร คือพระภิกษุรูปหนึ่ง
คำเทศนาของพระภิกษุรูปนั้นให้เขาและกลุ่มโจรต่างรำลึกถึงบาปบุญคุณโทษ จนกลับตัวกลับใจ และเรวัตตะก็ตัดสินใจบวชเป็นพระภิกษุ เจริญรอยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใต้ร่มเงาแห่งกาสาวพัสตร์
ไปในเวลาต่อมา
แต่แล้วเมื่อโชคชะตากลั่นแกล้ง พระเรวัตตะ ก็ได้พานพบกับลีลาวดี อีกครั้ง!
หญิงสาวผู้มีใจรักมั่นต่อหนุ่มน้อยจัณฑาลยากไร้ผู้นั้นไม่เคยเปลี่ยนแปร และเธอก็รอคอยเขากลับคืนมาอยู่ตลอดเวลา แม้ว่านางกัณณิกาพี่สาวและมารดา จะยุยงให้ลีลาวดี เข้าพิธีวิวาห์ไปกับชายหนุ่มอื่นผู้มีศักดิ์และวรรณะเสมอกัน แต่นางก็ปฏิเสธมาโดยตลอด
การพบกันในครั้งนี้ คือบทพิสูจน์ ระหว่างความรัก กับการแสวงหาเส้นทางแห่งธรรม สมรภูมิในจิตใจของภิกษุหนุ่มผู้ยังข้องติดอยู่ในทะเลโลกย์ ย่อมปั่นป่วน สับสนและต่อสู้กันเองอย่างหนักหน่วง และแล้วก่อนที่ท่านจะตัดสินใจเลือกในเส้นทางใด เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เมื่อกลุ่มนายทหารแห่งองค์ปเสนทิโกศล ที่ตามล่ากลุ่มโจรร้าย มาพบเรวัตตะในสภาพสมณะโดยบังเอิญ และด้วยหน้าที่ ทหารกลุ่มนั้นต่างจับกุมตัวเรวัตตะ พื่อนำไปลงโทษทัณฑ์ตามกฎหมายบ้านเมือง โดยการเผาทั้งเป็น!
ลีลาวดี เห็นเหตุการณ์นั้นพอดีด้วยความรัก นางยอมเสียสละ นำเงินมหาศาลของตนเองมาไถ่ตัวเรวัตตะ และพากลับคืนมายังปราสาทของตนเองอีกครั้ง และเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาในสภาพฆราวาส ลีลาวดี ก็ขอคำมั่นสัญญา เพื่อให้เขากลับคืนมาเป็นคนรักและใช้ชีวิตร่วมกับเธอดังเดิม
เรวัตตะขอเวลาคิดสามวัน และในวันสุดท้ายนั้นเอง เมื่อเขาตัดสินใจจะสละเพศภิกษุ ก็ได้ไปขอลาสิกขาบทจากอาจารย์ ท่านจึงพาพระเรวัตตะไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่ละบ้านที่เรวัตตะพานพบ ทำให้เห็นความทุกข์ของชีวิตการครองเรือน ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะเบาะแว้ง การหึงหวง และท้ายที่สุด คือการตายจากกัน นั่นทำให้พระหนุ่มเริ่มมองเห็นสัจจธรรมของชีวิต จนตัดสินใจ ออกธุดงค์โดยไม่คิดหวนคืนกลับมาหาลีลาวดีอีกต่อไป
เรวัตตะออกเดินทางจาริกรอนแรมไปยังที่ต่างๆ ได้สร้างกุศลกรรมให้แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ตามวิถีแห่งสมณะ ตราบจนพระภิกษุหนุ่มรับรู้ข่าวร้ายสำคัญ นั่นก็คือลีลาวดี ได้ล้มเจ็บลงและเสียชีวิตลงในที่สุด
เรื่องราวของพระเรวัตตะที่เกี่ยวข้องกับลีลาวดี จบลงในเล่มหนึ่งเพียงเท่านี้ น่าเสียดายที่ผมไม่มีโอกาสได้อ่านในภาคต่ออีกสามภาค ที่เหลือ แต่เนื้อหาและการบรรยายอย่างสวยงามของ ท่านธรรมโฆษ ก็ทำให้เราได้ดื่มด่ำไปกับสำนวนภาษา และเห็นภาพชีวิตของชาวภารตะในยุคพุทธกาลเป็นอย่างดีอย่างเช่นฉากเปิดเรื่องนี้ เป็นตัวอย่างสักเล็กน้อยนะครับ
สายัณหกาลกำลังย่างเข้ามา ดวงทินกรกำลังเคลื่อนคล้อยจวนจะลับแนวป่าฝั่งตะวันตกแห่งแม่น้ำอจิรวดี เกล็ดเมฆที่ดาดาษอยู่บนน่านฟ้าฝั่งตะวันตก ได้ถูกแสงอาทิตย์ฉาบเป็นสีแดงเข้มสลับดำและเหลืองน่าดู ฝูงวิหคพากันละที่หากินบินเป็นหมู่ๆ กลับรวงรัง เหล่าโคบาลกำลังต้อนฝูงโคคู่ยากกลับบ้าน ทิ้งทุ่งนาและราวป่าไว้ท่ามกลางความเงียบสงัดแห่งสายัณหกาล....

| หน้าที่เข้าชม | 1,391,849 ครั้ง |
| ร้านค้าอัพเดท | 3 พ.ย. 2568 |