คนทำชั่วได้ดี ยังไม่ได้รับโทษฐาน เพราะความดีที่มีอยู่ของเขากำลังให้ผลอยู่กรรมชั่ว ที่เขากำลังกระทำยังไม่ให้ผล ต่อเมื่อหมดผลแห่งกรรมดี กรรมชั่วจึงใช้ผลต่อไป เป็นเช่นนี้แหละ เพราะฉะนั้นคนเราจึงเกิดความไขว้เขวไป เรื่องความเป็นอยู่ แตกต่างกันเป็นเรื่องน่าสงสัย สำหรับผู้ที่ไม่รู้แจ้ง ในเรื่องของกรรมอย่างถ่องแท้ ตามที่พระศาสดา ทรงแสดงไว้ ก็เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจได้ คือกรรมของสัตว์ทั้งหลายอาจจะอุปมาได้เหมือนลูกโซ่ ที่เป็นห่วงร้อยกันอยู่อย่างนี้กรรมที่กระทำกัน ไว้ในโลกนี้ก็ย่อมให้ผลต่อเนื่องกันไป เรียกว่าให้ผลเป็นขั้นตอนไป ไม่สับสนกัน คือหมายความว่า เวลาใดกรรมดีกำลัง ให้ผลอยู่ กรรมชั่ว ก็ไม่ให้ผลเป็นอย่างนั้น แม้ว่าคนนั้นจะทำชั่วอย่างไรแต่กรรมดี ก็ยังอุปถัมภ์เขาอยู่ เขาก็ยังไม่เสื่อมจาก ลาภจากยศ และยังไม่ได้ประสบกับความทุกข์ แต่อย่างใดเพราะกรรมดีอย่างอุปถัมภ์เขาอยู่หลวงพ่อ พุธฐานิโย