Slow Life อาจเป็นไปไม่ได้จริงสำหรับคนทุกคน แต่เราสามารถจัดสรรเวลาเพื่อสร้าง Slow Moment หรือห้วงจังหวะเวลาที่ช้าลงได้เพื่อกิจกรรมใดๆตามความสนใจใคร่รู้ อันนำไปสู่การใช้เวลาแบบดิ่งลึก ปีสองปีนี้ กิจกรรมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อผสาน Passion + Learning ผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘Work Shop’ เติบโตเบ่งบานมาก ผู้คนยุคสมัยสปีดไวมีความต้องการเปิดโสตปรับสปีดให้ช้าลงรับสิ่งที่เรียกว่า ‘ประสบการณ์’ เพื่อต่อยอดความสนใจในเรื่องราวต่างๆทั้งที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้านต่างๆหรือเพื่อผ่อนคลาย โดยลงมือเรียนรู้ลองทำสิ่งใดแบบดื่มด่ำกับสิ่งนั้นๆ นอกจากนี้แบรนด์/องค์กรที่ต้องการสร้างความยั่งยืนทางความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายหลัก ล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญกับการสร้างและมอบประสบการณ์จนกลายเป็นปรากฏการณ์ ซึ่งเรา Curated มาให้สามกรณีศึกษา ตอนที่ (1) นี้ขอนำเสนอสองประสบการณ์   

ประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่ฮิพเก๋จริง คือการท่องเที่ยวซึ่งสามฝ่ายหลัก ได้แก่ เจ้าของกิจการพักแรม เจ้าของชุมชน  และนักท่องเที่ยวได้รับความรื่นรมย์จากการท่องเที่ยวบนพื้นฐานของการไม่เอาเปรียบ/ทำลายท้องถิ่นที่ไปเยือน มีความเคารพกันและกัน โดยเฉพาะในการท่องเที่ยวแนวมาแรงสุดซึ่งเป็นการเปิดประสบการณ์ในแง่วัฒนธรรมให้แก่นักเดินทางนั้น แม้ไม่ได้กระทำกันง่ายๆ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนขั้นสุดที่คนแปลกหน้า (นักท่องเที่ยว) จะเข้าไปยุ่มย่ามในพื้นที่ซึ่งมีวัฒนธรรมเฉพาะตัวชัดเจน โดยไม่เข้าไปทำลายความเป็นตัวตนที่แท้ของชุมชนนั้นๆ ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องจึงต้องใช้ความระมัดระวังรอบคอบสูงสุด Asian Oasis คือกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่สุด องค์กรนี้ตั้งใจออกแบบและนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้เป็นรูปธรรม ผ่านบริการทางการท่องเที่ยวหลากหลายทั้งเรือ (Cruise) ล่องลำน้ำสายสำคัญในไทยและลาว และที่พักแนวเปิดประสบการณ์วัฒนธรรมในเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งเป็น Hidden Gems สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอย่างเงียบๆแต่กวาดรางวัลระดับสากลเพียบมาเป็นเวลาช้านาน

ดิฉันเคยไปพักที่ลันเจีย ลอดจ์ หนึ่งในที่พักของ Asian Oasis ตั้งอยู่บนดอยกิ่วกาญจน์ ณ จุดกึ่งกลางระหว่าง