เป็นงานวิจัย และพัฒนาชั้นเรียนให้เป็นระบบ   กลุ่มตัวอย่างที่นำมาทำงานวิจัย เป็นกลุ่มนักเรียนเรียนดี เรียนอ่อน และเรียนปานกลางจากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 24 (บาโงยบาแด) ยะลา ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง มีอาณาบริเวณโรงเรียนติดต่อกับวิทยาลัยอาชีวะศึกษา ยะลา นักเรียนร้อยละ 70 เป็นนักเรียนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเทศบาลนครยะลา ผู้ปกครองเกือบทั้งหมดประกอบอาชีพเกษตรกรรมกร ก่อสร้าง และเป็นคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่อยู่ใกล้บริเวณโรงเรียน ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน และนร.98.54 นิยมพูดและใช้ภาษามลายูท้องถิ่น เป็นภาษาแม่ในชีวิตประจำวัน    นักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลามในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาสนั้น ส่วนใหญ่เรียนรู้หลายภาษาคือ 
1. ภาษาอาหรับ เพื่อใช้ในการอ่าน คัมภีร์อัลกุรอาน
2. ภาษายาวี เพื่อเป็ฯพื้นฐานในการเรียนภาษามาเลเซีย
3. ภาษารูมี เพื่อใช้เขียนจดหมายติดต่อสื่อสารกับญาติพี่น้องในประเทศมาเลเซีย 

และเหตุที่นักเรียนเหล่านี้สนใจภาษาเหล่านี้มากกว่าภาษาไทยเพราะ
1. สื่อการสอน เป็นหนังสือแบบเรียน หรือหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาไทยไม่เร้าใจนักเรียน เพราะใช้ภาษาวัฒนธรรมที่แปลกแยกจากชีวิตจริงของเด็ก
2. การเตรียมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครู ครูมักจะสอนเพราะอยากสอน มากกว่าเด็กอยากเรียน ไม่ได้ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง แต่ยึดครูเป็นศูนย์กลาง
3. เด็กเรียนรู้หลายภาษา ทั้งภาษาอาหรับ ภาษายาวี ภาษารู้มี ภาษาไทย

บทที่ 1 ปัญหาและสภาพปัญหา
บทที่ 2 วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3 วิธีการสอนและการดำเนินการ
บทที่ 4 ผลการดำเนินการ
บทที่ 5 สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

ชาตรี สำราญ
เป็นครูริเริ่มสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอน หลากหลายแนว ตัวอย่างผลงานวิชาการ เช่น มายากลเพื่อการศึกษา สอนอย่างไรให้เด็กเกิดแรงบันดาลใจเขียนบทกวี จากหลักสูตรสู่ห้องเรียน เปลี่ยนเป็นผลงานวิชาการ บทเรียนสำเร็จรูปคำคล้องจอง สอนให้คิด-คิดให้สอน การเขียนบทเรียนด้วยตนเองเป็นต้น