มาตรการป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID 19) มีมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาอย่างเคร่งครัด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้าทุกท่าน พนักงานทำความสะอาดหนังสือทุกเล่มด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัส ห่อถุงพลาสติกอย่างดี ทุกเล่ม
BOOKPANICH
Delivering Happiness
ศูนย์รวมหนังสือเก่าหายาก (Rare Item)
และหนังสือใหม่ (ทุกประเภท) หลากหลายสำนักพิมพ์
หนังสือบางเล่ม " อาจมีราคาสูงกว่าราคาปก " เพราะเป็นหนังสือหายากมีคุณค่า เหมาะแก่การสะสม
ทางร้าน "มีต้นทุนที่สูง ในการจัดหา"
ลูกค้าสามารถ กดสั่งซื้อ หยิบลงตะกร้า (Add To Cart) ก็สั่งซื้อได้ทันที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกให้ยุ่งยาก
หนังสือ เจ๊กบ้านนอก
ผู้เเต่ง กินหลั่น
ลูกจีนบนเกาะไหหลำคู่หนึ่งถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานกันตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วยังยุยงส่งเสริมให้ลงเรือสำเภาพากันไป ตายดาบหน้าเสียอีก จุดหมายปลายทางคือ “สยามประเทศ” ที่ เล่าลือกันไปทั่วทวีปเอเชียว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว อุดมสมบูรณ นั่นเอง
เมื่อมาถึงก็พากันสู้แบบถวายชีวิตตามเยี่ยงอย่างบรรพบุรุษ จนสร้างเนื้อสร้างตัวได้ อยู่ต่างจังหวัดของไทยแห่งหนึ่ง ผู้เป็นสามี มักสอนลูกๆให้รำลึกถึงพระคุณคนไทย ทั้งองค์พระมหากษัตริย์ผู้ ไม่เคยกีดกัน ชาวจีนโพ้นทะเล แม้น้อยนิด สอนให้ลูกรักนับถือ คนไทย ผู้มีใจโอบอ้อมอารีทุกถ้วนหน้า ผู้เป็นเตี่ยมักหันหน้าไปทาง ที่พระมหากษัตริย์ไทยสถิตยอยู่แล้วก้มศีรษะลงจรดพื้นแสดงความเคารพอย่างสูงสุด
วันหนึ่งเตี่ยให้ลูกสาวพาไปไหว้พระแก้วมรกต บังเอิญวัดปิดลูกสาวจึงพาไปเที่ยวพิพิธกัณฑ์แห่งชาติ พอเตี่ยเห็นพระราชรถสำหรับพระมหากษัตริย์เตี่ยก็นั่งคุกเข่าก้มศีรษะจรดพื้นเสีย ๓ ที
ลูกสาวคนที่ว่า คือ “กิมหลั่น” ผู้เขียนเรื่อง “เจ๊กบ้านนอก” ซึ่งคุณกำลังถืออ่านอยู่ขณะนี้ ถึงจะเป็นชีวิตจริงอิงนิยาย ก็น่าอ่าน น่ารู้สำหรบผู้ไม่เคยรู้ว่า คนจีนจากแผ่นดินใหญ่มาอยู่เมืองไทย แถวบ้านนอกคอกนาเป็นอย่างไรพี่สาวคนโตของเธอขายขนมครก เลี้ยงครอบครัว ทั้งน้องๆ ๓ คน จนโตใหญ่ส่วนกิมหลั่นสู้ชีวิตอยู่ บ้านนอกอย่างสาหัสสากรรจ์จนเตี่ยและแม่ตายจากในวันหนึ่ง
ต่อมาก่อนจะถึงวันไหว้ตรุษจีนเธอรำลึกถึงชีวิตหนหลังทั้งเตี่ยและแม่ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่จึงตั้งหน้าตั้งตาเขียนบันทึกจนจบเธอนำไปเสนอขายให้บางสำนักพิมพ์ปรากฏว่าเขาสั่นหัว เพราะเขาดูแล้วไม่ใช่นิยายน้ำเน่าขืนพิมพ์แล้วขายไม่ออกก็เจ๊ง เธอจึงกัดฟันทุบกระปุกลงทุนพิมพ์เองให้สมอยากมอบให้บริษัทเคล็ดไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย ปรากฏว่าขายดีจนพิมพ์ซ้ำอีกหนหนึ่งตกเข้ามาปี พ.ศ. นี้ก็ไม่มีขายในร้านหนังสือแล้ว ข้าพเจ้าจึงยุยงส่งเสริมให้เธอกัดฟันพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งที่ ๓ ว่า “ถึงจะขายไม่ ดี ไม่หมดปีนี้มันต้องหมดในปีต่อไป หรือในร้อยปีข้างหน้าแน่ เพราะ ลูกจีน หลานจีนรุ่นใหม่เกิดมาภายหลังต้องอ่านเป็นความรู้รอบตัวอย่างไม่ต้องสงสัย”

