คลื่นลูกที่ 5 ปราชญ์สังคม
คือ สังคมที่ใช้ “ปัญญาวิถี” เป็นเครื่องชี้วัดความเจริญรุ่งเรืองระยะยาวของสังคม หมายถึงการนำพาสังคมไทยไปก้าวไกลอีกก้าวหนึ่งมากกว่า “สังคมแห่งความรู้” ทั้งนี้เพราะแม้ว่าในอนาคตจะสามารถพัฒนาคลื่นแห่งความรู้ได้อย่างประสบความสำเร็จในเมืองไทย แต่ผู้ที่จะมีชัยชนะและประสบความสำเร็จยั่งยืนอย่างแท้จริงและมีคุณค่า จำเป็นต้องเป็นผู้ที่มี “ปัญญา” ด้วย เพราะ “ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด” ก็ยังเป็นคำพังเพยที่เตือนใจเราไว้เป็นอย่างดี แท้ที่จริงแล้วหากมีการพัฒนาความรู้โดยปราศจากการพัฒนาจนก้าวสู่การพัฒนาทางปัญญาควบคู่ไปด้วยก็อาจจะยิ่งสร้างความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวงต่ออนาคตของประเทศ เช่น คนที่มีความรู้ใช้ความรู้ในทางที่ผิด แต่หากสังคมในศตวรรษที่ 21 เป็นสังคมที่ใช้ปัญญา สังคมนั้นจะไปสู่ความสำเร็จในรูปแบบทั้งในระดับปัจเจกและในระดับภาพรวม ทั้งๆที่ประเทศนั้นอาจเป็นประเทศที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติหรือวัตถุดิบใดๆเลย ประเทศนั้นก็อาจจำเริญอยู่แถวหน้าได้ ขอเพียงแต่ประชาชนทั่วไปและผู้นไประเทศที่มี “ปัญญา” ก็สามารถนำทิศทางบ้านเมืองสู่ความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนได้
เราต้องตระหนักให้แน่ชัดว่า “ความรู้” นั้นไม่ใช่ “ปัญญา” จนหว่าจะได้รู้จักประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมถูกที่ ถูกเวลา ถูกโอกาส ถูกสถานการณ์ ถูกบริบท และถูกระบบแวดล้อม ฯลฯ ความสามารถในการประยุกต์สมมติไว้ถึงความลึกซึ้งของความเข้าใจในสิ่งที่พิจารณาอย่างถ่องแท้จนก้าวลึกเลยระดับความรู้ที่คนปกติเขามีๆกัน ด้วยเหตุนี้ สังคมไทยจึงต้องมีการสร้างคลื่นลูกที่ 5 หรือสังคมแห่งปัญญาขึ้นผ่านการสร้าง “ปราชญ์สังคม” หรือสังคมที่เต็มไปด้วยผู้ที่ปัญญาในการดำเนินชีวิต อันเป็นสังคมที่พึงประสงค์ในศตวรรษที่ 21 โดยนำเสนอแนวคิดในการสร้างคน 2 ระดับ คือ ประชาเมธีและ ปราชญาธิบดี ที่เราขะอรรถาธิบายต่อไปว่าเป็นคนที่มีลักษณะการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมกับเป็นผู้มีปัญญา และสามารถก้าวสู่แนวหน้าทางความคิดได้ไม่เพียงเท่าเทียมกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกในด้านต่างๆ ที่ประชาคมโลกเขามีกัน แต่เราควรก้าวล้ำไปเป็นแบบอย่างแก่สังคมโลกในการเป็นสังคมแห่งปัญญาวิถีอย่างแท้จริง
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. 2543. คลื่นลูกที่ 5 ปราชญสังคม : สังคมไทยที่พึงประสงค์ในศตวรรษที่ 21. พิมพ์ครั้งที่8. กรุงเทพฯ : ซัคเซสมีเดีย