ผู้บุกเบิกรูปแบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายแผนใหม่ :

ศาสตราจารย์สวี เค่อเฉิง ได้รับรางวัลสูงสุดทางการแพทย์ “Bethune”  

 

ศาสตราจารย์สวี เค่อเฉิง ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยมะเร็งชื่อดังของจีน และผู้อำนวยการโรงพยาบาลฟูด้า นครกวางเจา ประเทศจีน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขจีนให้ความสำคัญด้านการศึกษามะเร็ง ศ.สวี เค่อเฉิงไม่เพียงเป็นผู้มีประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ตัวท่านได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งท่อน้ำดีเมื่อ 8 ปีก่อนด้วยเช่นกัน ศ.สวี เค่อเฉิงเป็นผู้นำเอาเทคนิคการดูแลผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดมะเร็งด้วยความเย็นแบบรุกล้ำพื้นที่น้อย เทคนิคการดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบองค์รวม เทคนิคการดูแลด้วยการให้ยาผ่านทางสายยางไปยังเซลล์มะเร็งโดยตรงแบบนาโน เทคโนโลยีเลเซอร์แสงจำเพาะที่และการดูแลด้วยไวรัสทางชีวภาพ เข้ามาดูแลตนเองและผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากเป็นรายแรกของเอเชีย ด้วยความเพียรพยายามและความกล้าหาญในการค้นคว้าวิจัย ท่านได้เสนอรูปแบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายด้วยรูปแบบที่เรียกว่า “3C+P”ซึ่งรูปแบบนี้ให้ผลการดูแลดีกับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายและทำให้เทคโนโลยีทางด้านนี้มีการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งที่ท่านอุทิศและความสำเร็จในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ทำให้ท่านได้รับรางวัลเกียรติยศทางการแพทย์สูงสุด “Bethune” ประจำปี 2013 จากกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงบริหารทรัพยากรบุคคลของประเทศจีน ศ.สวี เค่อเฉิงยังได้รับเกียรติให้เป็นรองประธานสมาคมดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยความเย็นสากล และโรงพยาบาลที่ท่านบริหารอยู่ก็ได้รับการขนานนามให้เป็น “โรงพยาบาลที่ประชาชนไว้ใจ” และ “โรงพยาบาลโรคมะเร็งที่ทรงคุณค่า”

ท่านได้แต่งตำราจากประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยมะเร็งด้วยความเย็น เป็นเล่มแรกของโลก เรื่อง Modern Cryosurgery for Cancer ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์วิทยาศาสตร์สากลสิงคโปร์ ปัจจุบันตำราดังกล่าวสมาคมดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยความเย็นสากลได้กำหนดให้เป็นเอกสารอ้างอิงเฉพาะทางที่สำคัญ ส่วนโรงพยาบาลโรคมะเร็งฟูด้า นครกวางเจา สมาคมดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยความเย็นสากลกำหนดให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านการดูแลผู้ป่วยมะเร็งด้วยความเย็นเพียงแห่งเดียวในทวีปเอเชียแปซิฟิก ไม่เพียงความสำเร็จทางด้านวิชาการ ท่านยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับการให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งแก่ประชาชนทั่วไปอีกด้วย เห็นได้จากหนังสือเรื่อง “ผมพูดความจริงกับผู้ป่วยโรคมะเร็ง” ฉบับภาษาไทยซึ่งกำลังดำเนินการตีพิมพ์ในประเทศไทย แปลโดย ดร.กัญจน์นิตา  สุเชาว์อินทร์ อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยรังสิต เชื่อมั่นว่าหลังจากที่ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายได้อ่านจะได้รับความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับมะเร็งและแนวทางการดูแลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น