ศูนย์รวมหนังสือเก่าหายาก (Rare Item)
และหนังสือใหม่ (ทุกประเภท) หลากหลายสำนักพิมพ์
หนังสือบางเล่ม " อาจมีราคาสูงกว่าราคาปก " เพราะเป็นหนังสือหายากมีคุณค่า เหมาะแก่การสะสม
ทางร้าน "มีต้นทุนที่สูง ในการจัดหา"
ลูกค้าสามารถ กดสั่งซื้อ หยิบลงตะกร้า (Add To Cart) ก็สั่งซื้อได้ทันที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกให้ยุ่งยาก
มาตรการป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID 19) มีมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาอย่างเคร่งครัด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้าทุกท่าน พนักงานทำความสะอาดหนังสือทุกเล่มด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัส ห่อถุงพลาสติกอย่างดี ทุกเล่ม
BOOKPANICH
Delivering Happiness
"หากการเดินทางของเรามิได้ออกเดินทางเพราะผู้อื่นที่อาศัยอยู่ในจักรวาลเดียวกันกับเรา ก็จงอย่าออกเดินทางเลย"
"คำนี้น่าสนใจจริงๆ
หาก ท่องเที่ยว เราควรพูดคุย ขุดคุ้ย ค้นคว้า ให้ได้จิตวิญญาน แนวคิด ของผู้คน หรือสถานที่นั้นๆ อย่างนี้จึงจะเรียกว่าท่องเที่ยวที่สมบูรณ์
พี่จิก-ประภาส ชลศรานนท์ เรียกการท่องเที่ยวแบบนี้ว่า เที่ยวแบบขนนก เพราะนกไปที่ไหน จะมีร่องรอยของที่นั้นๆ ติดขนมาเสมอ
อีกแบบคือเที่ยวแบบตะกร้า จับจ่ายสิ่งที่เขาขาย แล้วก็กลับ แถวบ้านผมเรียก ชะโงกทัวร์ น่ะครับ
 
ลองดูนะครับ เราเที่ยวแบบไหน หรือชอบแบบไหน ลองพิจารณาดู
 
การท่องเที่ยวถือเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งครับ
และหนังสือเล่มนี้ก็ยืนยันอย่างนี้"
ผู้เขียน : โตมร ศุขปรีชา
สำนักพิมพ์ : openbooks
จำนวนหน้า : ๒๕๖ หน้า
หนังสือเล่มนี้ยืมจากคุณแพนด้ามหาภัย จากโครงการ LIF
ยืมมานานเลยกว่าจะได้อ่าน
ส่วน หนึ่งเพราะงานเขียนของคุณโตมรต้องใช้ความตั้งใจในการอ่าน แต่เมื่อได้อ่านต้องยอมรับว่าได้อาหารต่อสมองเต็มๆ อ่านไป คิดไป ยิ้มไป เถียงไป เออออด้วย ครบเครื่องครับ
อ่านงานของคุณโตมรครั้งแรกใน นิตยสาร way ทึ่งในความคิด ครั้งนั้นเป็นบทความเรื่องป้ายโฆษณาสินค้า ที่เดิมเป็นป้ายประกาศสื่อสารกับทาส เปรียบไปเราก็คือทาส รอการสื่อสารจากเจ้านาย(ทุน)ทั้งหลาย เป็นอย่างนี้กันหรือเปล่า ลองคิดดู
 มาอ่านเป็นเล่มคือ Genderism เป็นเรื่องที่ว่าเกี่ยวกับเพศชาย สุดยอดเลยครับ ความคิดเด็ดมากๆ เลย อ่านไป ฝึกสมองไป ได้ความรู้เพิ่มขึ้น มีเพื่อนบางคนบอกว่าอ่านเล่มนี้ทำให้เข้าใจคนอื่นมากขึ้น 
อ่านเจอในเล่มของคุณวงศ์ทนง เลยรู้ว่าคุณโตมรเป็นบรรณาธิการของนิตยสาร GM เลยชักอยากอ่านขึ้นมาเลยกับเล่มนี้อ่านแล้วหยุดไปนาน จนมาอ่านเจอในนิตยสาร Secret มีดารามาพูดถึงเล่มนี้ เป็นตำราในฝันของ โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล เลยอยากอ่านขึ้นมา เลยคว้ามาอ่านต่อไม่ผิดหวังครับ คุณโตมรบริหารสมองผมอย่างเมามันเขาบันทึกการเดินทางได้อย่างน่าสนใจ น่าติดตาม มีมุมมองครบถ้วนแถมบอกไว้ในเล่มว่า หากการเดินทางของเรามิได้ออกเดินทางเพราะผู้อื่นที่อาศัยอยู่ในจักรวาลเดียวกันกับเรา ก็จงอย่าออกเดินทางเลยเพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะไม่มีวันรู้เห็นและเข้าใจได้เลย-ว่าผ้าปูโต๊ะกับลมหมอที่เมืองเคปทาวน์...บังเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร?ทั้งเล่มเลยทำตามปรัชญานี้ การเดินทางและบันทึกแต่ละที่เพื่อทำความเข้าใจผู้คน สถานที่ การตั้งชื่อ อย่างมีที่มาที่ไปเคยคิดไหมครับว่าทำไมหมู่บ้านนี้จึงมีชื่ออย่างนั้น อย่างนี้ ล้วนมีที่มาครับ เพียงแต่เราะสนใจค้นหา และตั้งคำถามหรือเปล่าคุณโตมรทำหน้าที่เหล่านี้อย่างสมบูรณ์แบบครับในเล่มจะพูดถึงที่ต่างๆ เช่น วังเวียง-ปาย-โพคารา ที่นำมาเชื่อมโยงในแง่พัฒนาการได้อย่างเห็นภาพ เขาบอกว่า ถ้าเรียงอายุพัฒนาการจากน้อยไปมากคือ วังเวียง-ปาย-โพคาราหรือจะเป็น สวีเดน ที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะ ชอบคำถามเด็ดในบทนี้ที่คุณโตมรถามเพื่อนชาวสวีเดนว่า คนสวีเดนฟรีเซ็กส์จริงหรือ? ก็ได้คำตอบว่า เนื่องค่าครองชีพสูง ยิ่งมีลูกจะโดนเก็บภาษีมาก ชาวสวีเดนเลยเปลี่ยนแฟนถ้าอยู่กันไม่ได้ แต่ไม่เคยมีแฟนครั้งเดียวสองคน อย่างนี้เรียกฟรีเซ็กส์ไหม?
อีกบทที่ชอบคือ No more war เพราะไม่ชอบสงครามเหมือนกันชอบ ตอนที่คุณโตมรปฏิเสธการทานอาหารญี่ปุ่นชามที่น่าทานมาก เพราะแม่ค้าเชื้อสายญี่ปุ่นไม่ยอมรับธนบัตรที่ปั๊มคำให้หยุดสงคราม เธอบอกว่าใช้ไม่ได้ ต้องไปแลกที่ธนาคารมา เขาเลยไม่กินเลยเหตุการณ์นี้เกิดที่สหรัฐอเมริกา ชอบครับที่ชอบที่สุดคือบท Untamed South Africa ชอบตั้งแต่ชื่อบทเลย เพราะชอบหนังเรื่อง Untamed Heart หัวใจไม่เชื่อง ได้เห็นคำว่า Untamed อีกครั้ง ถูกใจครับเนื้อหาในบทนี้ก็โลดโผน มีความเสี่ยงในการท่องเที่ยวมากเชียว น่ากลัวเหมือนกันนะประเทศนี้ชื่อ หนังสือก็มาจากบทนี้แหละครับ ผ้าปูโต๊ะ จะเป็นลักษณะของเมฆลอยลงมาต่ำมองคล้ายผ้าปูโต๊ะของแท่นหิน ส่วนลมหมอคืออากาศตรงจุดนั้นดี ลมที่พัดมาจะช่วยบำบัดโรคได้ ลมหมอช่วยบำบัดโรคให้ทุกคนถ้วนหน้าครับ ไม่เลือกสีผิว อ่านแล้วก็พอจะเข้าใจความยุ่งยากในประเทศ South Africa ในเรื่องสีผิว ชนชาติโดยบทนี้บันทึกเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวได้ดีมากอยากท่องเที่ยวแล้วบันทึกอย่างนี้ได้บ้างจังส่วนบทอื่นก็น่าอ่าน แม้แต่กรุงเทพฯ คุณโตมรก็ยังบันทึกได้อย่างน่าสนใจบทแรกและบทสุดท้ายเป็นเรื่องของการตามหาเรือของทีมคนพิการ ที่กัปตันเป็นชาวต่างชาติ ลูกเรือเป็นคนไทย ทุกคนพิการ แต่ล่องเรือด้วยระยะทางยาวไกลจนสำเร็จ แล้วเขียนเป็นหนังสือไว้คุณโตมรเดินทางตามหาสถานที่จริง และเรือลำนั้น สุดยอดไอเดียครับหากการเดินทางของเรามิได้ออกเดินทางเพราะผู้อื่นที่อาศัยอยู่ในจักรวาลเดียวกันกับเรา ก็จงอย่าออกเดินทางเลยคำนี้น่าสนใจจริงๆหาก ท่องเที่ยว เราควรพูดคุย ขุดคุ้ย ค้นคว้า ให้ได้จิตวิญญาน แนวคิด ของผู้คน หรือสถานที่นั้นๆ อย่างนี้จึงจะเรียกว่าท่องเที่ยวที่สมบูรณ์พี่จิก-ประภาส ชลศรานนท์ เรียกการท่องเที่ยวแบบนี้ว่า เที่ยวแบบขนนก เพราะนกไปที่ไหน จะมีร่องรอยของที่นั้นๆ ติดขนมาเสมออีกแบบคือเที่ยวแบบตะกร้า จับจ่ายสิ่งที่เขาขาย แล้วก็กลับ แถวบ้านผมเรียก ชะโงกทัวร์ น่ะครับลองดูนะครับ เราเที่ยวแบบไหน หรือชอบแบบไหน ลองพิจารณาดูการท่องเที่ยวถือเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งครับและหนังสือเล่มนี้ก็ยืนยันอย่างนี้