มาตรการป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID 19) มีมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาอย่างเคร่งครัด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้าทุกท่าน พนักงานทำความสะอาดหนังสือทุกเล่มด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัส ห่อถุงพลาสติกอย่างดี ทุกเล่ม
BOOKPANICH
Delivering Happiness
ศูนย์รวมหนังสือเก่าหายาก (Rare Item)
และหนังสือใหม่ (ทุกประเภท) หลากหลายสำนักพิมพ์
หนังสือบางเล่ม " อาจมีราคาสูงกว่าราคาปก " เพราะเป็นหนังสือหายากมีคุณค่า เหมาะแก่การสะสม
ทางร้าน "มีต้นทุนที่สูง ในการจัดหา"
ลูกค้าสามารถ กดสั่งซื้อ หยิบลงตะกร้า (Add To Cart) ก็สั่งซื้อได้ทันที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกให้ยุ่งยาก
หนังสือ “เปิดปมรถไฟฟ้า ที่คนกรุงเทพฯ ต้องรู้ “ของ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. กูรูรถไฟฟ้า “ตัวจริง” อีกคนหนึ่งของเมืองไทย
“...คนกรุงเทพฯ ต้องรอคอยมาเป็นเวลายาวนาน จึงได้มีรถไฟฟ้าใช้ในวันนี้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เป็นสิ่งที่น่าวิเคราะห์อย่างยิ่ง ความผิดพลาดในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจรและขนส่งที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องใช้เป็นบทเรียนสำคัญในการแก้ปัญหาจราจรในอนาคต”
“กรุงเทพฯ เริ่มมีการวางแผนระบบการจราจรและขนส่ง โดยผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน เมื่อปี พ.ศ.2514 โดยได้จัดทำเป็นแผนแม่บททั้งระบบถนน ทางด่วน และรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน พร้อมทั้งเสนอแนะไว้ว่าหากรัฐบาลต้องการส่งเสริมระบบขนส่งมวลชน ควรสร้างทางรถไฟฟ้าเป็นระยะทางประมาณ 110 กม. ภายในปี พ.ศ.2533”
“ต่อมาในปี พ.ศ.2517 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาจากประเทศอังกฤษ ทำการสำรวจและศึกษาแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ส่วนหนึ่งที่เสนอแนะโดยผู้เชี่ยวชาญเยอรมัน ซึ่งประกอบด้วย 3 สาย มีระยะทางรวม 50 กม. ได้แก่ สายที่ 1 พระโขนง-บางซื่อ สายที่ 2 วงเวียนใหญ่-ลาดพร้าว และสายที่ 3 ดาวคะนอง-มักกะสัน กทพ.พยายามดำเนินการตามข้อเสนอแนะ โดยในเวลาต่อมาได้ก่อสร้างฐานรากบางส่วน เพื่อเตรียมรองรับรถไฟฟ้าตามเส้นทางดังกล่าว โดยผนวกกับโครงการสะพานพุทธใหม่ (พระปกเกล้า) และสะพานตากสิน แต่นั่นเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า เพราะได้มีการทบทวนเปลี่ยนแปลงเส้นทางในภายหลัง”
“ต่อมามีโครงการรถไฟฟ้าเกิดขึ้น 2 โครงการ คือ โฮปเวลล์ และบีทีเอส โดยมีการลงนามในสัญญาสัมปทานในปี พ.ศ.2533 และ 2535 ตาม ลำดับ แต่การวางแผนเส้นทางของโครงการทั้งสองรวมทั้งโครงการของ กทพ.ที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นอิสระต่อกัน ทำให้มีเส้นทางซ้ำซ้อนไม่เหมาะสม ไม่สามารถสนองตอบความต้องการการเดินทางได้ดีพอ จึงมีการปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางใหม่ และจัดทำเป็นแผนแม่บทขึ้นในปี พ.ศ.2537 มีระยะทางรวม 267.9 กม. แบ่งเป็นเส้นทางใต้ดิน 67.2 กม. ระดับพื้นดิน 37.7 กม. และยกระดับ 163.0 กม.”
“แผนแม่บทดังกล่าวออกมาหลังจากโครงการโฮปเวลล์และบีทีเอสเกิดขึ้นแล้ว จึงเป็นผลให้ชาวกรุงเทพฯ ได้รถไฟลอยฟ้าวิ่งบนถนนในตัวเมือง ซึ่งมีเขตทางแคบแทนที่จะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน และได้รถไฟฟ้าใต้ดินเป็นแนววงแหวน มีเส้นทางส่วนหนึ่งผ่านถนนรัชดาภิเษก ซึ่งมีเขตทางกว้างกว่าและไม่ได้อยู่ในใจกลางเมืองแทนที่จะเป็นรถไฟลอยฟ้า”
“เรามีรถไฟฟ้าสายแรกใช้เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 นับเป็นประเทศที่ 4 ในอาเซียน ต่อจากฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซียตามลำดับ เหตุที่กรุงเทพฯ มีรถไฟฟ้าช้า โดยเฉพาะช้ากว่ามะนิลาถึง 15 ปี ทั้งๆที่รายได้เฉลี่ยต่อคนสูงกว่าและมีจำนวนประชากรพอๆกัน พอจะมีคำอธิบายได้ดังนี้”
จำนวนหน้า 120 หน้า